ว่ากันด้วยเรื่อง หลอดไฟ LED [ EP.2 : LED ดีจริง?..หรือป่าวนะ? ]
ก่อนหน้านี้เราได้พูดถึงเรื่องของอุปกรณ์ที่ทำให้เกิดแสงสว่างอย่าง “หลอดไฟ” ซึ่งต่างก็มีหลากชนิดหลายประเภทและพัฒนาต่อยอดกันมาเรื่อย ๆ จนมาถึงปัจจุบันนี้ที่หลาย ๆ บ้านต่างปรับเปลี่ยนมานิยมใช้หลอดไฟ LED แทนหลอดไส้และหลอดฟลูออเรสเซนต์กันแล้วด้วยเหตุผลต่าง ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นความเข้าใจที่ว่า หลอดไฟ LED นั้นดีกว่าหลอดไฟอื่น ๆ จะดีจริงหรือไม่? หรือจะเหมาะสมกับการใช้งานของท่านหรือเปล่า? เรามาหาคำตอบกันค่ะ
=[ ข้อดีของหลอดไฟ LED ]=
- หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหลอดไฟแบบฟลูออเรสเซนต์ทั่วไป
- หลอดไฟ LED มีการใช้กระแสไฟฟ้าที่ต่ำ แต่ให้ค่าความสว่างเท่ากับหลอดไฟแบบฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาว
- หลอดไฟ LED ไม่ต้องใช้งานร่วมกับบัลลาสต์และสตาร์ทเตอร์เหมือนหลอดฟลูออเรสเซนต์ จึงทำให้เมื่อเปิดสวิตซ์หลอดไฟ LED ติดสว่างทันที ไม่มีการกระพริบ
- หลอดไฟ LED มีขนาดเล็กทำให้สามารถนำไปประกอบให้มีรูปร่างที่แตกต่างกันออกไปได้ตามการใช้งาน
- หลอดไฟ LED มีสีที่หลากหลายให้เลือกใช้
- หลอดไฟ LED ก่อให้เกิดรังสีอินฟาเรตและรังสีอัลตราไวโอเรต(UV) ซึ่งเป็นอันตรายต่อดวงตาและผิวหนัง
- การเปลี่ยนมาใช้หลอดไฟ LED ถือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่มีก๊าซพิษร้ายแรงในการทำปฏิกิริยาไฟฟ้าเพื่อให้เกิดแสงสว่าง
=[ข้อเสียของหลอดไฟ LED ]=
- หลอดไฟ LED มีราคาค่อนข้างสูงกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์
- หลอดไฟ LED เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จึงต้องมีการระบายความร้อนที่ดีพอ มิฉะนั้นหากเกิดความร้อนสะสมมาก ๆ อายุการใช้งานของหลอดไฟ LED ก็จะต่ำลง
- หากใช้หลอดไฟ LED ในระบบไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น กระแสแรงดันไฟเกิน, ไฟตกหรือไม่สม่ำเสมอ อาจทำให้หลอดไฟ LED มีอายุการใช้งานน้อยลงเช่นกัน
- หลอดไฟ LED ส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้กับสวิตซ์หรี่แสง (Dimmer Switch) ได้
- การใช้งานหลอดไฟ LED ต้องถูกติดตั้งอย่างถูกวิธีโดยอาศัยช่างผู้ชำนาญการ เนื่องจากการต่อใช้งานหลอดไฟชนิดนี้สามารถประยุกต์ได้หลายรูปแบบ
อ้างอิงแหล่งข้อมูล :
Related