• “ระบบอัตโนมัติ” ส่งผลต่อธุรกิจทั่วโลกอย่างไร ??

    หุ่นยนต์กำลังเปลี่ยนแปลงแง่มุมที่หลากหลายของโลกธุรกิจสมัยใหม่ การสำรวจระบบปฏิบัติการหุ่นยนต์ประจำปีครั้งที่สามของบริษัท Deloitte เผยว่า ได้มีการนำเอากระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติ (RPA) มาใช้ในองค์กรต่างๆ เพิ่มมากขึ้น

    ระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติ ( Robotic Process Automation )…คืออะไร

    Robotic Process Automation หรือ RPA คือ…การใช้ระบบปฏิบัติการหุ่นยนต์เพื่อช่วยในการประมวลผลข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

    RPA ยังมาพร้อมกับโปรแกรมแทนที่การใช้แรงงานมนุษย์ในงานทั่วไปที่ทำซ้ำ ๆ เป็นประจำ ดังนั้น RPA จึงสามารถช่วยจัดการกับเวลาได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพมาก แม้ว่ากระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติอาจฟังดูซับซ้อนสำหรับคนที่ยังไม่เชี่ยวชาญ แต่ก็ถือได้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นการก้าวเข้าสู่โลกอันซับซ้อนของการสร้างสรรค์กระบวนการรับรู้แบบอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น ระบบตอบกลับอัตโนมัติ (chatbots) การวิเคราะห์ขั้นสูง การเรียนรู้ของเครื่องจักร รวมไปถึงการประมวลผลภาษาธรรมชาติ

    ด้วยเหตุนี้ การอภิปรายเรื่องหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่นำมาใช้ร่วมกันไม่ควรถูกมองว่าเป็นสิ่งที่เกี่ยวกับอนาคตอันไกล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราเริ่มที่จะเห็นถึงผลกระทบของสิ่งเหล่านี้ในธุรกิจทั่วโลกและในชีวิตประจำวันของเรา

    ระบบปฏิบัติการหุ่นยนต์กำลังเริ่มเป็นที่แพร่หลายยิ่งขึ้น

    ในโลกธุรกิจการกล่าวเช่นนั้นนับเป็นความเป็นจริงเมื่อหลาย ๆ บริษัทเลือกใช้กระบวนการทำงานอัตโนมัติเพื่อการรับมือกับการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ได้อย่างเกิดผลและล้ำหน้าต่อวิกฤตสุขภาพครั้งนี้

    สำหรับธุรกิจที่ใช้ RPA อยู่ตอนนี้ ระบบนี้สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ดังนั้นแม้ว่า esportsได้ประมาณการณ์ว่ากระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติ (RPA) จะมีมูลค่าถึง 6.81 พันล้านเหรียญสหรัฐฯภายในปี พ.ศ. 2569 แต่ในตอนนี้ RPA กำลังเข้าสู่แวดวงธุรกิจอย่างท่วมท้นและฉับไว เจ้าของธุรกิจหลายรายที่ใช้ RPA เชื่อว่าระบบนี้ประสบความสำเร็จตามคาดและเกินกว่าในแง่ของการเพิ่มผลผลิต และในขณะเดียวกันนั้นก็เป็นการลดค่าใช้จ่าย ในเรื่องของระยะเวลางานและการกำกับดูแลได้ด้วยเช่นกัน ผู้ที่ใช้ RPA ทั่วโลกส่วนใหญ่มีระยะคืนทุนที่ดี ธุรกิจจำนวนมากรายงานว่ามีระยะคืนทุน อย่างน้อยที่ 12 เดือน ขึ้นอยู่กับความสามารถของหุ่นยนต์หรือประเภทของกระบวนการทำงานที่เลือกใช้

    – การให้ความสนใจที่เพิ่มขึ้นในระบบปฏิบัติการหุ่นยนต์

    สองสามปีที่ผ่านมาในโลกธุรกิจ ความสนใจในกระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติ (RPA) และระบบปฏิบัติการหุ่นยนต์โดยรวมเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอและเพิ่มอีกกว่าสองเท่าเนื่องจากผลกระทบของไวรัสโคโรนา เพราะธุรกิจหลาย ๆ รายเลือกทางออกโดยการใช้เทคโนโลยีกระบวนการทำงานอัตโนมัติมากขึ้น

    ไม่กี่ปีก่อน กระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติยังถูกมองว่าเป็นเทคโนโลยีเกิดใหม่ และแม้ว่าจะยังไม่ได้ครองโลกธุรกิจไปทั้งหมดซะทีเดียวแต่ก็มีผลกระทบที่สำคัญอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่าง ๆ ด้วยการขจัดงานที่น่าเบื่อหน่ายออกไปและแทนที่ด้วยการให้พนักงานมุ่งความสนใจกับงานที่ใช้ความสามารถได้อย่างอิสระตามแบบฉบับตนเอง

    สำหรับบริษัทส่วนใหญ่ที่ยังไม่มีการใช้งานเทคโนโลยีนี้ อาจเป็นเพราะมีความกังวลหลัก ๆ ในเรื่องเงินทุนหรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ก็มีข้อพิสูจน์ที่มากเพียงพอจากบริษัทต่าง ๆ ที่ได้ใช้เทคโนโลยีนี้แล้ว ยืนยันว่าผลที่ได้กลับมาจากการลงทุนนั้นดีเยี่ยม ข้อกังวลอีกข้อหนึ่งที่บางบริษัทยังคงลังเลกับการเริ่มต้นใน RPA ก็คือการเริ่มใช้ระบบนี้จะทำให้บางคนตกงาน แต่อย่างไรก็ตาม รายงานของบริษัท Deloitte กลับมีความเห็นที่ต่างออกไป นั่นคือกระบวนการทำงานอัตโนมัติจะทำให้เกิดการสร้างงานมากขึ้นและเป็นงานที่ให้ค่าตอบแทนและใช้ทักษะสูงกว่า

    แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีเรื่องที่น่ากังวลหลัก ๆ อีก 5 เรื่องสำหรับบริษัทที่ใช้งานกระบวนการทำงานแบบอัตโนมัตินี้ไปแล้วซึ่งรวมถึงทางเทคโนโลยีด้วย นั่นคือ

    1. เรื่องการคาดการณ์และผลกระทบจากพนักงาน

    2. การยอมรับจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

    3. ความยืดหยุ่นของการแก้ปัญหาและการบูรณาการใช้งานร่วมกับเครื่องจักรที่มีอยู่เดิม

    4. การยอมรับและการสนับสนุนของไอที

    5. กระบวนการจัดการให้ได้ตามมาตรฐาน

    แต่ไม่ว่าโลกธุรกิจจะต้องเผชิญความท้าทายอย่างไร การใช้งานระบบ RPA นี้จะกระตุ้นความสนใจและความคล่องตัวอันเป็นที่ต้องการใช้งานในเทคโนโลยีอื่น ๆ ได้อย่างแน่นอน

    เทคโนโลยีบางอย่าง เช่นการใช้โดรนและอุปกรณ์ขนาดเล็กเจ๋ง ๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในโลกธุรกิจอย่างใด ตัวอย่างจากเว็บไซต์ https://www.drdrone.ca/ ได้เสนอโดรนประเภทต่าง ๆ สำหรับการใช้ส่วนตัวและการใช้งานในเชิงธุรกิจ ดังนั้นธุรกิจต่าง ๆ จะสามารถก้าวไปข้างหน้าบนเส้นทางระบบอัตโนมัติแบบดิจิทัลด้วยความช่วยเหลือจาก RPA และเมื่อกล่าวถึงการลดความกลัวของแรงงานมนุษย์ หนึ่งในทางที่ดีที่สุดที่พนักงานจะรู้สึกดีกับเทคโนโลยี RPA นั้นก็คือการให้พนักงานมีส่วนร่วม ทั้งในเรื่องการออกแบบและในกระบวนการทำงาน

    ประโยชน์ของ RPA

    **ข้อดีที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนของ RPA หรือ กระบวนการทำงานแบบอัตโนมัติ คือ

    1.) ช่วยลดค่าจ้างแรงงานของบริษัท และความผิดพลาดจากมนุษย์ในการทำงาน

    2.) หุ่นยนต์โดยทั่วไปแล้วมีราคาต่ำและใช้งานง่าย ตรงข้ามกับสิ่งที่ผู้คนหรือบริษัทส่วนมากคิด มากเพราะไม่ต้องการระบบบูรณาการเชิงลึกหรือใช้ซอฟแวร์เฉพาะใดใด

    3.) ช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ ขยายตัวได้ตามต้องการโดยไม่เสียงบประมาณหรือค่าใช้จ่ายจำนวนมากจนเกินไป

    4.) สามารถเพิ่มกำลังให้ระบบได้อย่างมาก ด้วยการเพิ่มเทคโนโลยีทางกระบวนการรับรู้ เช่น การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (natural language processing) การรู้จำเสียง (Speech Recognition) และ การเรียนรู้ของเครื่องจักร (Machine Learning – ML)

    ฉะนั้นแล้วระบบจะทำงานที่ซับซ้อนขึ้นซึ่งเป็นงานที่ในอดีตต้องการความสามารถในการรับรู้และตัดสินใจของมนุษย์ ระบบ RPA เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ที่เรียกว่า Intelligent Automation (IA) ซึ่งอาจเป็นการทำงานที่พัฒนาขึ้นไปอีกได้ถึง 20 ขั้น

    ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าภายในปี พ.ศ. 2563 AIและระบบทำงานอัตโนมัติจะสามารถลดความต้องการแรงงานได้อย่างมาก และยังมีการคาดการณ์อีกว่าตลาดระบบ RPA นี้จะก้าวไปถึงหนึ่งพันล้านภายในสิ้นปี หรือกว่าหกพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในอีกหกปีข้างหน้า

    – แม้จะมีข้อดีแค่ก็ยังมีข้อผิดพลาดอยู่ –

    แม้ว่าระบบ RPA จะมีคุณประโยชน์มากมาย แต่ก็อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกธุรกิจ เนื่องด้วยเทคโนโลยีทำงานอัตโนมัติ RPA นี้ ได้นำไปสู่การตกงานเป็นจำนวนมากเช่นกัน

    ในความเป็นจริง ผู้เชี่ยวชาญบางรายได้คาดการณ์ถึงอัตราตัวเลขการตกงานที่น่าตกใจจำนวนหลายร้อยล้าน หรืออย่างน้อย 9% ของแรงงานทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกันก็คาดว่าจะเกิดอาชีพใหม่ขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก และแม้ว่าบริษัทต่าง ๆ จะจัดการกับปัญหาการสูญเสียอาชีพได้ ก็ยังต้องเผชิญกับปัญหาในเรื่องอื่น ๆ อีก อาทิเช่น ปัญหาด้านความผิดพลาดในการใช้งาน

    ตามที่ผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวไว้ การทำงานของ RPA นั้นยังมีข้อผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง ด้วยที่หลายบริษัทใช้งานโปรแกรมปฏิบัติการหุ่นยนต์หลายโปรแกรมพร้อมกัน หรือแม้แต่การไม่ยอมติดตั้งหุ่นยนต์ใหม่เอาเสียเลย นอกจากนี้แม้ว่า RPA ต่าง ๆ จะส่งผลเรื่องการลดค่าใช้จ่าย แต่หลายบริษัทที่ได้ทดลองติดตั้งระบบหุ่นยนต์พบว่ามีความซับซ้อน มีค่าใช้จ่ายสูงในการลงทุนและใช้เวลานานในการติดตั้งมากกว่าที่คิดไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากการติดตั้งจำนวนมาก ๆ พร้อมกัน

    นี่เป็นเพราะบางครั้งพื้นฐานการกำหนดหน้าที่เพื่อการตอบสนองของระบบหุ่นยนต์นั้นมีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อย ๆ อีกทั้งในบางครั้งความสามารถในการปรับตัวนั้นไม่สามารถปรับเข้ากับระบบหุ่นยนต์ได้ตามที่ต้องการ

    คำแนะนำเพื่อการให้ได้ RPA ที่มีประสิทธิภาพ

    บริษัทควรนำ RPA เข้าสู่วงจรการพัฒนาอย่างเต็มรูปแบบ มิฉะนั้นอาจจะเสี่ยงที่ระบบจะทำลายหุ่นยนต์ในระหว่างการทำงานหนัก นอกจากนี้บริษัทควรตรวจให้แน่ใจว่าได้ตั้งเป้าและจัดการตามที่คาดไว้ ขณะเดียวกันก็คำนึงถึงผลกระทบต่อธุรกิจและผลกระทบของระบบอัตโนมัติต่อผู้คนด้วย

    บริษัทไม่ควรละเลยการมีส่วนร่วมของพนักงานมนุษย์ตั้งแต่ขั้นตอนแรก ไม่ว่าจะเป็นด้านการออกแบบหรือการทำงานของระบบ ไม่ใช่เพียงตอนที่สำเร็จแล้วหรือตอนระบบมีปัญหา  ยิ่งไปกว่านั้น ต้องแน่ใจว่าจะสามารถจัดการปรับปรุงแก้ไขเองได้อย่างเหมาะสม

    อ้างอิงข้อมูลจาก How Automation is Affecting Global Business, 10-08-2020, โดย POLLY